happynut2476.blogspot.com Open in urlscan Pro
2607:f8b0:4004:c09::84  Public Scan

URL: http://happynut2476.blogspot.com/
Submission: On November 02 via api from US — Scanned from US

Form analysis 0 forms found in the DOM

Text Content

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


ประวิต์ส่วนตัว




ณัฐพร เพชโรภาส (ณัฐ)
คติประจำใจ  ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น  



เขียนโดย nut happyzone ที่ 23:31 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest




วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


ผลกระทบการการใช้งานอินเทอร์เน็ต


http://www.youtube.com/watch?v=DElLhOcRBL8

ผลกระทบการการใช้งานอินเทอร์เน็ต

เขียนโดย nut happyzone ที่ 03:14 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest




วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง



วัดไผ่โรงวัว สมัยก่อนเป็นวัดที่ใครๆที่มาสุพรรณ ต้องแวะกราบใหว้ และชมความสวยงาม
ใหญ่โตของพุทธศิลปะ ต่อมาการจัดการภายในไม่ดี ทำให้วัดเริ่มไม่มีระบบระเบียบ
เป็นภาพที่ไม่สวยงามกับผู้มาพบเห็น แต่ปัจจุบันได้มีการจัดระบบภายในวัด
ให้เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้วัดเริ่มกลับมาสวยงาม เหมือนเดิม ถึงจะไม่ 100%
แต่ก็นับว่าพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก







วัดไผ่โรงวัว ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางตาเถร ห่างจากตัวจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 43
กิโลเมตร หรือจากกรุงเทพฯประมาณ 70 กิโลเมตร 
ตามเส้นทางสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี มีทางแยกซ้ายก่อนถึงสามแยกลาดบัวหลวงเข้าสู่วัดไผ่โรงวัว 
วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 เป็นวัดที่มีพุทธ-ศาสนิกชน และบุคคลทั่วไป
นิยมไปเที่ยวชมกันมาก หลวงพ่อขอม  ได้ดำเนินการก่อสร้าง
“พระพุทธโคดม” เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 
เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12
มีนาคม 2512ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับพุทธศาสนา ได้แก่  “สังเวชนียสถาน 4
ตำบล”  คือสถานที่ที่พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน 
กับงานประติมากรรมหรือภาพปั้นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัตินรกภูมิ 
รวมทั้งวรรณคดีและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี  “พระธรรมจักร” 
หล่อด้วยทองสำริดใหญ่ที่สุดในโลก  “พระกะกุสันโธ” 
พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก “ฆ้องและบาตร” ใหญ่ที่สุดในโลก 
“พระวิหารร้อยยอด” รวมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย










เขียนโดย nut happyzone ที่ 23:40 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest




โบราณสถานตุมปัง




โบราณสถานตุมปัง (ร้าง) เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขต อ. ท่าศาลา  จ.นครศรีธรรมราช
นั้น
ได้พบแหล่งโบราณคดีที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมอินเดียแพร่กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก
ร่องรอยที่เหลือให้เห็นอย่างเด่นชัด คือ ศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ ทั้ง ไศวนิกาย และ
ไวษณพนิกาย จากการสำรวจแหล่งโบราณคดี วัดตุมปังร้างโดยกรมศิลปากร ในปี พ.ศ. 2536
พบชิ้นส่วนท่อนล่างของรูปเคารพสลักจากหินซึ่งสันนิษฐานว่า เป็น เทวรูป
องค์พระนารายณ์
            จากการขุดค้น และการขุดแต่งโบราณสถานตุมปังนี้
มิได้คาดหวังว่าแหล่งโบราณสถานนี้จะสามารถศึกษาย้อนหลังไปได้ไกลถึงยุคแรกเริ่มประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราช เพราะจากการสำรวจแสดงให้เห็นลักษณะรูปแบบที่เป็นรุ่นหลังลงมาแล้ว
 แต่สิ่งที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้คือ การจัดลำดับช่วงเวลาของชุมชน
เจ้าของโบราณสถานไว้ในช่วงใดช่วงหนึ่งตั้งแต่ยุคแรกเริ่มประวัติศาสตร์จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ซึ่งนี่ถือเป็นการเริ่มต้น เรียงลำดับตารางเวลาของประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช
นั่นเอง

            โบราณสถานตุมปัง (ร้าง) อยู่ในเขต มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต.ไทยบุรี อ.
ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สามารถเดินทางจากตัว อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ไปตามถนนหลวงหมายเลข 401 มายังอำเภอท่าศาลา ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 2 กิโลเมตร
เลี้ยวซ้ายเข้าไปในมหาวิทยาลัย มุ่งหน้าไปสู่ถนนวลัยตุมปัง
ซึ่งเป็นถนนเส้นเดียวกับที่ตั้งโรงผลิตน้ำประปาของมหาวิทยาลัย แหล่งโบราณคดี
ตั้งอยู่บริเวณสุดถนนก่อนจะออกสู่แหล่งชุมชน



เขียนโดย nut happyzone ที่ 23:37 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest




เมืองโบราณ




เมืองโบราณ - ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถนนสุขุมวิท
(สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมสถานที่สำคัญ ๆ ในประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 800 ไร่
เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2506 ปูชนียสถานที่สำคัญๆ เช่น เขาพระวิหาร
ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา
ฯลฯ โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง บางแห่งเท่าแบบจริงการสร้าง ฝีมือประณีต
นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่
ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของประเทศไทยจะศึกษาได้จากเมืองโบราณแห่งนี้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทเมืองโบราณ จำกัด ตำบลบางปู กิโลเมตรที่ 33 โทร. 02
709-1644  สำนักงานกรุงเทพฯ มุมอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โทร. 0
2224 1057, 0 2226 1936-7




Read more: http://www.paknam.com/thai/ancient-siam.html#ixzz2khI8vJhE

เขียนโดย nut happyzone ที่ 23:35 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest




พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ




พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์



พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ’ ประติมากรรมอันงดงามกลางเขาธงชัย พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
ตั้งอยู่บนยอดเขาธงชัย สร้างเพื่อถวายแก่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
9 ที่ครองราชสมบัติครบ 5๐ ปี ในพื้นที่กว่า 3 ไร่
เป็นสถานที่ก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ซึ่งหากมองไกล ๆ
จากที่สูงจะมองเห็นเป็นประดุจวิมานลอยฟ้าสร้างเป็นอาคารชุดหลังเดียวขนาดใหญ่มาก
มีเจดีย์ประธานและหมู่เจดีย์ล้อมอีก 8 องค์



ด้านล่างก่อนที่จะถึงบริเวณทางขึ้นพระมหาเจดีย์นั้น
จะเป็นลานกว้าง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ
“พระพุทธกิติสิริชัย” ซึ่งทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถเนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ
โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า“พระพุทธกิติสิริชัย” สำหรับอาคาร
5 ชันนั้น ประกอบด้วย
ชั้นใต้ดิน เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และพิพิธภัณฑ์ลายไทยของ ม.ร.ว.มิตรารุณ
เกษมศรี ชั้นถัดมาเป็นชั้นพื้นดิน ชั้นที่ 3 เป็นชั้นพระวิหาร สำหรับรับผ้ากฐิน
รับผ้าป่าและฟังธรรมเทศนา สามารถจุคนได้ถึง 1,000 คน ตรงกลางของชั้นนี้
เป็นพระพุทธรูป 4อิริยาบถ ประจำ 4
ทิศและเมื่อเราเดินออกมาด้านนอกอาคารบริเวณระเบียง ชั้น
4เราจะเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบของหาดบ้านกรูด
เวิ้งหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ทิวแถวของต้นมะพร้าว
และความเงียบสงบซึ่งการได้มาเที่ยวที่พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศครั้งนี้ถือว่าคุ้มสุดคุ้ม…

ทั้งนี้ ในส่วนของชั้นที่ 1-4
เปิดให้พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00
น.ส่วนชั้นที่
5 ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายในบุษบกและประดิษฐาน พระพุทธรูปทองคำปางประจำพระชนมวาร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปิดให้พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยว ได้สักการะ
เฉพาะเทศกาลวันวิสาขบูชา จำนวน 3 วัน คือ ขึ้น 14 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ
เดือน 6
ของทุกปี ส่วนแสงไฟโดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศจะเปิดเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

เขียนโดย nut happyzone ที่ 07:22 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest




หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย) BUFFALO VILLAGE


ไปเที่ยวมาแล้วซาบซึ้งมาก โดนปลากระโดดใส่เปียกเลย 555+


เขียนโดย nut happyzone ที่ 05:57 ไม่มีความคิดเห็น:
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest


บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก

สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)

Thailand Calendar





เกี่ยวกับฉัน

nut happyzone ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน



คลังบทความของบล็อก

 * ▼  2013 (9)
   * ▼  พฤศจิกายน (9)
     * ประวิต์ส่วนตัว
     * ผลกระทบการการใช้งานอินเทอร์เน็ต
     * วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง
     * โบราณสถานตุมปัง
     * เมืองโบราณ
     * พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ
     * หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย) Buffalo Village
     * swiss sheep farm
     * The Venezia Hua Hin








บางเบา ธีม. รูปภาพธีมโดย latex. ขับเคลื่อนโดย Blogger.